บทความนี้เอามาจากหนังสือของนักเขียนนิตยสารชื่อดังของ USA Today ค่ะ ชื่อหนังสือนั้นแค่ฟังก็น่าสนใจสำหรับพวกเราๆชาวเน็ตแล้วค่ะ Investing Online For Dummies by Matt Krantz
เอาล่ะไม่อารัมภบทนานเหมือนเดิม มาเข้าเรื่องกันเลยว่าอะไรที่กระทบต่อราคาหุ้นในช่วงสั้นๆกันบ้าง
1.เคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นทั้งตลาด วันนี้ถ้าตลาดขึ้นหุ้นก็ขึ้น ถ้าตลาดลงหุ้นตัวนั้นก็ลงตามค่ะ ติดตามได้จากการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ ตลอดจนข่าวที่กระทบเศรษฐกิจทั่วโลกเช่น เศรษฐกิจจากยุโรปและจีน
2.Earning Report หรือรายงานประกาศผลกำไร โดยเฉพาะที่อเมริกานั้นเขาว่ากันว่ามักจะปันผลในช่วงเดือนกรกฎาคมด้วยค่ะ โดยจะประกาศกันทุกๆไตรมาศ ปีหนึ่งๆมี 4 ไตรมาศ ไตรมาศละ 3 เดือน ลองนับกันให้ดีนะจ่ะว่าใกล้หรือยัง
3.Industry Development อะไรก็ตามที่เกิดกับอุตสาหกรรมนั้นมักจะส่งผลกับหุ้นตัวที่เรากำลังมองอยู่ เช่น ถ้าคู่แข่งของเขาออกสินค้าอะไรใหม่ บริษัทที่เราถือหุ้นก็มีปัญหาได้ค่ะเพราะมีการแย่งรายได้ไป ก็ราคาหุ้นขึ้นอยู่กับความคาดหวังว่ากำไรของบริษัทจะมากหรือจะน้อยนั่นเอง
4.Management Change ในระดับบนๆของบริษัทนั้น ใครจะถุกจ้าง ใครจะถูกไล่ออกก็เป็นสัญญาณทางธุรกิจได้เช่นกัน ถ้าเราไม่ทราบว่าหุ้นจะไปทิศไหนก็ดูสักญญาก่อนหน้าประกอบได้ เพราะก่อนข่าวจะประกาศก็มักมีวงในทราบก่อนอยู่แล้ว
5.Raw Materials การเปลี่ยนแปลงราคาของวัตถุดิบมีความสำคัญอย่างมากกับบริษัทเพราะส่วนใหญ่บริษัทจะมีสต็อกสินค้าอยู่แล้ว การที่ราคาสินค้าลดหรือเพิ่มนั้นจะส่งผลต่อกำไรของบริษัทไม่มากก็น้อยค่ะ เช่น บริษัทน้ำมันก็จะมีลักษณะกราฟใกล้เคียงกับราคาวัตถุดิบ เช่น XOM exxon mobile กราฟจะเลียนแบบกับน้ำมัน , ในหนังสือยังยกตัวอย่าง Sbux หรือสตาร์บัคกับราคากาแฟค่ะ
เอาล่ะๆเอาเว็บไว้ดูราคาสินค้ากันเลยค่ะ
http://www.cmegroup.com/trading/agricultural/
6.Trading Momentum หรือจังหวะการเทรด อธิบายสั้นๆว่าต่อให้ตลาดหุ้นลง แต่ถ้าหุ้นจะไปใครจะไปฉุดอยู่
7.Merger Chatter เมื่อบริษัทจะแต่งงานกัน ตลาดก็มักจะเคลื่อนไหวขึ้นเสมอค่ะ ส่วนที่ควบรวมกันแล้วใครจะไปต่อหรือใครจะตกนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทไหนได้ประโยชน์มากกว่ากัน ซึ่งตรงนี้ก็ต้องอาศัยการพิจารณาให้ดีๆ แต่แนะนำว่าขายก่อนควบรวมก็จะปลอดภัยที่สุดค่ะ
8.Bond Yeild อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากตลาดอเมริกาเฟื่องฟูด้านการจัดสรรเงินลงทุนมาก ดังนั้นเขาจะพิจารณาอยู่เสมอๆว่าการเล่นหุ้นได้คุ้มเสียไหม หากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสูงกว่า เขาก็จะย้ายเงินไปทันที จึงต้องติดตามกันให้ดีและดูอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดกันต่อไป
9.Legal insider buying or selling ทำไมเขาถึงเน้นคำว่าพวกวงในที่ถูกกฎมายก็ไม่ทราบ แต่เอาเป็นว่าเชือได้ และหากช่วงไหนผู้บริหารขายกันมากๆ หุ้นก็มักอ่อนแอกันให้เห็นจริงๆ แล้วถ้ามีการขายใกล้ช่วงประกาศผลกำไรกันเล่า มันแปลว่าอะไร?
สุดท้ายแล้ว การดูเพียงข้อใดข้อหนึ่งไม่อาจบอกได้อย่างชัดเจนว่าหุ้นตัวนั้นจะขึ้นหรือจะลง หากดูประกอบกันหลายๆข้อ ก็จะช่วยให้เข้าใจและเดาทางหุ้นได้ยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น